วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2555

เราควรตอบสนองต่อสถานการณ์ยากลำบากอย่างไร

เราควรตอบสนองต่อสถานการณ์ยากลำบากอย่างไร
1.เรามีของมีค่าที่อยู่ในเราคือพระวิญญาณ
ในร่างกายเรือนดินของเรามีพระผู้ช่วยที่ยินดีช่วยเหลือเราเมื่อเราร้องขอ และพระวิญญาณจะประทานกำลังกายใจสติปัญญาให้แก่เรา ที่จะต่อสู้ฟันฝ่าวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้ ให้มองสิ่งดีและคิดในเชิงบวก รักษากำลังใจที่ดีเอาไว้
ฟป. 4:8 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ในที่สุดนี้ขอจงใคร่ครวญถึงสิ่งที่จริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ทรงคุณ คือถ้ามีสิ่งใดที่ล้ำเลิศ สิ่งใดที่ควรแก่การสรรเสริญ ก็ขอจงใคร่ครวญดู
2คร. 4:7-9 แต่ว่าเรามีของมีค่านี้อยู่ในภาชนะดิน เพื่อให้เห็นว่า ฤทธิ์เดชอันเลิศนั้นเป็นของพระเจ้า ไม่ได้มาจากตัวเราเอง8 เราถูกขนาบรอบข้าง แต่ก็ไม่ถึงกับกระดิกไม่ไหว เราจนปัญญาแต่ก็ไม่ถึงกับหมดมานะ
9 เราถูกข่มเหงแต่ก็ไม่ถูกทอดทิ้ง เราถูกตีลงแล้ว แต่ก็ไม่ถึงตาย
2.หลายครั้งคริสเตียนเข้มแข็งเติบโตฝ่ายวิญญาณขึ้นเพราะผ่านความยากลำบาก
2คร. 4:16 เหตุฉะนั้นเราจึงไม่ย่อท้อ ถึงแม้ว่ากายภายนอกของเรากำลังทรุดโทรมไป แต่จิตใจภายในนั้นก็ยังคงจำเริญขึ้นใหม่ทุกวัน
3.สถานการณ์สร้างโอกาสสำหรับผู้ที่ไม่ท้อถอย
สำหรับคริสเตียนเป็นโอกาสที่เราจะสำแดงความรักของพระเจ้า และได้สะสมรางวัลบนสวรรค์เป็นทรัพย์สมบัติที่ยั่งยืนถาวร
2คร. 4:17-18 เพราะว่าการทุกข์ยากเล็กๆ น้อยๆ ของเรา ซึ่งเรารับอยู่ประเดี๋ยวเดียวนั้น จะทำให้เรามีศักดิ์ศรีถาวรมากหาที่เปรียบมิได้18 เพราะว่าเราไม่ได้เห็นแก่สิ่งของที่เรามองเห็นอยู่ แต่เห็นแก่สิ่งของที่มองไม่เห็น เพราะว่าสิ่งของซึ่งมองเห็นอยู่นั้นเป็นของไม่ยั่งยืน แต่สิ่งซึ่งมองไม่เห็นนั้นก็ถาวรนิรันดร์
มธ. 6:19 -20 “อย่าส่ำสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัวในโลก ที่อาจเป็นสนิมและที่แมลงกินเสียได้ และที่ขโมยอาจขุดช่องลักเอาไปได้20 แต่จงส่ำสมทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์ ที่ไม่มีแมลงจะกินและไม่มีสนิมจะกัด และที่ไม่มีขโมยขุดช่องลักเอาไปได้
2คร. 5:9-10 เหตุฉะนั้นเราตั้งเป้าของเราว่า จะอยู่ในกายนี้ก็ดีหรือไม่อยู่ก็ดี เราก็จะทำตัวให้เป็นที่พอพระทัยของพระองค์10 เพราะว่าจำเป็นที่เราทุกคนจะต้องปรากฏตัวที่หน้าบัลลังก์ของพระคริสต์ เพื่อทุกคนจะได้รับสมกับการที่ได้ประพฤติในร่างกายนี้ แล้วแต่จะดีหรือชั่ว
4.เมื่อเรามีใจกว้างขวางพระเจ้าจะยิ่งเพิ่มพูนให้เรามากขึ้น
2คร. 9:10 ฝ่ายพระองค์ผู้ประทานพืชแก่คนที่หว่าน และประทานอาหารแก่คนที่กิน จะทรงโปรดให้พืชของท่านที่หว่านแล้วนั้นทวีขึ้นเป็นอันมาก และจะทรงให้ผลแห่งความชอบธรรมของท่านเจริญยิ่งขึ้น
5.เมื่อเราสำแดงความรักและยื่นมือเข้าทำการช่วยเหลือคนจะสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้า
2คร. 9:11-13 โดยทรงให้ท่านทั้งหลายมีสิ่งสารพัดมั่งคั่งบริบูรณ์ขึ้น เพื่อให้ท่านมีแจกจ่ายอย่างใจกว้างขวาง ซึ่งโดยเราจัดแจก จะให้เกิดการขอบพระคุณพระเจ้า
12 เพราะว่าการรับใช้ในการปรนนิบัตินั้น มิใช่จะช่วยธรรมิกชนซึ่งขัดสนเท่านั้น แต่ยังเป็นเหตุให้มีการขอบพระคุณพระเจ้าเป็นอันมากด้วย
13 และเนื่องจากผลแห่งการปฏิบัตินั้น เขาจึงสรรเสริญพระเจ้า โดยเหตุที่ท่านทั้งหลายยอมฟัง และตั้งใจอยู่ในอำนาจข่าวประเสริฐของพระคริสต์ และเพราะเหตุท่านได้แจกจ่ายแก่เขา และแก่คนทั้งปวงด้วยใจกว้างขวาง

ไม่มีความคิดเห็น: